วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

เครื่องบินโดยสารรุ่นแรกของโลก


           หลังจากเมื่อวานที่ได้ลงข้อมูลเกี่ยวกับประวัติและวิวัฒนาการของเครื่องบินไปแล้วนะค่ะวันนี้ดิฉันก็ได้ไปหาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินโดยสารรุ่นแรกของโลกมีชื่อว่าอะไรและใครเป็นคนสร้างนะค่ะ    จากที่เราทราบกันมานะค่ะว่าเครื่องบินในยุคแรกๆนั้นมีไว้เพื่อการสงคราม แล้วเครื่องบินโดยสารเริ่มขึ้นได้อย่างไร?     เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าเครื่องบินโดยสารรุ่นแรกของโลกมีความเป็นมาอย่างไร




เครื่องบินโดยสารรุ่นแรกของโลก

            รัสเซียเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงไม่น้อยในเรื่องเครื่องบิน  อย่างในเรื่องเครื่องบินโดยสาร พวกเขาก็ผลิตกันออกมาหลายรุ่นหลายแบบ แต่ดูเหมือนเครื่องบินโดยสารรัสเซียจะเป็นพวกเอาใจยาก เพราะเห็นว่าตกกันบ่อยเหลือเกิน เอะอะอะไรก็ตกแล้ว       เมื่อวาน ได้เข้าไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต เลยได้รู้ว่าคนรัสเซียเป็นผู้เปิดศักราชเครื่องบินโดยสารของโลก

               เครื่องบินโดยสารรุ่นแรกของโลกมีชื่อว่าอิลเลีย มูราเมียซ “ ( Ilya Muromets) ตามชื่อวีรบุรุษในตำนานของชาวยูเครน แต่อย่างเป็นทางการแล้วเครื่องบินรุ่นนี้ใช้ชื่อว่า Sikorsky S-22 มันถูกสร้างขึ้นมาในช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยเป็นเครื่องบินขนาด 4 เครื่องยนต์อิลเลีย มูราเมียซ ปรากฏโฉมออกมาในปี 1913

แบบจำลองที่จัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์ 

 

               ดีไซน์ของมันสำหรับยุคนั้น เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติวงการเครื่องบินกันเลยทีเดียว เมื่อมีการพุ่งเป้าเพื่อให้มันเป็นเครื่องบินที่จะให้บริการด้านการพาณิชย์แบบหรูหรามันจึงมีส่วนที่นั่งของผู้โดยสารนอกจากนั้นก็ยังมีห้องน้ำบนเครื่องด้วย       เครื่องบินรุ่นนี้ออกแบบโดยอิกอร์ ซิกอร์สกี้ โดยพัฒนามาจากเครื่องบิน Sikorsky S-21 “ รุสสกี้ วิเทียซ หรือ Le Grand เครื่องบิน 4 เครื่องยนต์รุ่นแรกของโลกที่ก็ออกแบบโดยซิกอร์สกี้เช่นกัน ซึ่ง Sikorsky S-21 มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพัฒนาการบินของรัสเซีย และอุตสาหกรรมเครื่องบินแบบหลายเครื่องยนต์ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันให้โอกาสรัสเซียในการเป็นจุดกำเนิดของเครื่องบินโดยสารที่มีหลายเครื่องยนต์และบรรทุกผู้โดยสารได้หลายคน

            แต่เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ขึ้น มันก็ถูกปรับเปลี่ยนไปเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดชั้นดี ด้วยการติดระบบทิ้งระเบิดเข้าไป เรื่องนี้จึงทำให้มันได้ชื่อว่าเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ 4 เครื่องยนต์ลำแรกของโลกด้วย ซึ่งในช่วงปีแรกๆของสงคราม ปรากฏว่ามันไม่มีคู่แข่งเลย เพราะฝ่ายข้าศึกไม่มีเครื่องบินขนาดพอฟัดพอเหวี่ยงกับมันจนกระทั่งในอีกหลายปีต่อมา
            ซิกอร์สกี้ออกแบบและสร้างอิลเลีย มูราเมียซ ที่โรงงาน Russo-Baltic Carriage Factory หนึ่งในโรงงานผลิตรถยนต์แห่งแรกๆของรัสเซียที่เมืองริก้า ( ปัจจุบันคือเมืองหลวงของลัตเวีย ) เมื่อปี 1913 โดยหวังจะให้มันเป็นเครื่องบินโดยสารระดับหรู ซึ่งเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การบินที่ผู้โดยสารจะมีส่วนของผู้โดยสารโดยเฉพาะ มีที่นั่งอย่างดี มีห้องนอน เล๊าจ์ หรือแม้กระทั่งห้องน้ำ ห้องนักบินก็กว้างขวาง ผู้โดยสารหลายคนสามารถไปนั่งดูการทำงานของนักบินได้ ลำตัวเครื่องก็เปิดได้ทั้งสองด้าน ทำให้ช่างเครื่องยนต์สามารถปีนออกไปที่ปีกเพื่อซ่อมเครื่องขณะที่เครื่องกำลังบินได้ สำหรับระบบทำความร้อนในเครื่องบินนั้น อาศัยความร้อนจากไอเสียที่ต่อท่อกลับเข้ามาในเครื่องบิน ส่วนแสงไฟฟ้าได้มาจากเครื่องปั่นไฟที่อาศัยพลังงานลม


  
              แม้การออกแบบจะล้ำยุค แต่สำหรับระบบช่วยบินนั้น ปรากฏว่ายังเป็นแบบเดิม ไม่มีอะไรใหม่แต่อย่างใด

              วันที่ 10 ธันวาคม 1913 “ อิลเลีย มูราเมียซ หมายเลข 107 ได้ออกบินครั้งแรก พอวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1914 มันก็ออกบินโชว์พร้อมด้วยผู้โดยสารบนเครื่อง 16 คน ซึ่งถือเป็นสถิติโลกสำหรับเรื่องของจำนวนผู้โดยสารช่วงเวลานั้น จากสถิตินี้ และอื่นๆทำให้พระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 ทรงพระราชทานเครื่องราชฯ Order of St. Vladimir ชั้นที่ 4 ให้กับซิกอร์สกี้ รวมทั้งให้อภิสิทธิ์ ไม่ต้องเข้ารับราชการทหารในช่วงสงคราม เพื่อให้เขาเดินหน้าการพัฒนาเครื่องบินต่อไปได้ นอกจากนั้นยังพระราชทานชื่อ เคียฟสกี้ ให้กับเครื่องบินหมายเลข 107 ด้วย ขณะที่รัฐสภาก็เสนอจะให้เงินสนับสนุนการทำงานของเขา   100,000  รูเบิ้ล
                                 

                                                                        

                ในการพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้ต่อ ซิกอร์สกี้ได้ทดสอบติดขาพิเศษเพื่อให้มันลงจอดบนพื้นหิมะ และในน้ำได้ด้วย ซึ่งหากไม่เกิดสงคราม มันก็คงจะได้ทำหน้าที่เป็นเครื่องบินโดยสารไปเรียบร้อยแล้ว แต่เมื่อใกล้จะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 1 ซิกอร์สกี้ได้ดัดแปลงให้มันเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิด ที่สามารถบรรทุกระเบิดได้ 800 กิโลกรัม ติดปืน 9 กระบอกรอบตัวเพื่อใช้สำหรับการป้องกันตัว ในส่วนของเครื่องยนต์ก็ติดเกราะหนา 5 มิลลิเมตร โดยสำหรับเวอร์ชั่นการทหารในครั้งนี้มันถูกออกแบบมาให้เหมาะสมสำหรับภารกิจการบินไกล

                 ตอนสงครามเริ่ม รัสเซียมีเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นนี้แค่ 2 ลำ แต่ก็เร่งสร้างขึ้นมาเรื่อยๆ พวกมันออกทำหน้าที่ทิ้งระเบิดครั้งแรกเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 1915 โดยเป็นการโจมตีแนวรบของเยอรมัน พวกเยอรมันไม่ค่อยอยากส่งเครื่องบินรบออกไปจัดการกับเครื่องบินทิ้งระเบิดยักษ์ลำนี้ จากเหตุผลทั้งความใหญ่โตของมัน และจากอาวุธปืนรอบตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งปืนที่หาง รัสเซียเสียเจ้ายักษ์ลำแรกไปในการสู้รบเมื่อ 12 กันยายน 1916 และก็เป็นลำเดียวที่เสียไปในการสู้รบของสงครามครั้งนี้
                                         
     

                 
ระหว่างปี 1913 – 1918 รัสเซียสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบนี้ออกมา 73 ลำ ซึ่งพวกมันก็ได้ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ด้านการเปิดศักราชทางด้านการบินมากมาย ทั้งการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินทิ้งระเบิดหนัก การจัดฝูงบินทิ้งระเบิดเพื่อเป้าหมายข้าศึก การโจมตีตอนกลางคืน การประเมินความเสียหายจากการทิ้งระเบิดด้วยภาพถ่าย นอกจากนั้นก็มีเรื่องของการพัฒ นายุทธศาสตร์ในการสู้รบกลางอากาศกับเครื่องบินขับไล่หลายลำของเครื่องบินทิ้งระเบิด และจากการพัฒนาระบบอาวุธทำให้ความแม่นยำในการทิ้งระเบิดสูงถึง 90 เปอร์เซ็นต์

                  รวมแล้วในสงครามโลก พวกมันออกบินกว่า 400 เที่ยว ทิ้งระเบิดไป 65 ตัน พอถึงปี 1916 หลายประเทศเริ่มผลิตเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบนี้ขึ้นมาบ้างโดยใช้มันเป็นต้นแบบ ขณะที่รัฐบาลรัสเซียและซิคอร์สกี้เองก็ขายใบอนุญาตให้รัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศสนำไปผลิตเองได้ เยอรมันเองก็พยายามก็อปปี้มันโดยเก็บซากเครื่องบินที่ถูกยิงตกเมื่อปี 1916 ไปศึกษา

                     แต่สำหรับฝ่ายรัสเซีย มองว่าการพัฒนามันมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว การติดอาวุธ การปรับแต่งต่างๆทำให้เครื่องบินหนักเกินไป พัฒนาการของวงการอุตสากรรมการบินและโรงงานตอนนั้นก็พัฒนาไปเร็วมาก ทำให้เกิดเครื่องบินรุ่นใหม่ออกมามากมาย เครื่องบินทิ้งระเบิดของประเทศอื่น ตอนนี้ก็บินได้เร็วกว่ามันเสียอีก ซิคอร์สกี้ ก็เลยหันไปพัฒนาเครื่องบินรุ่นใหม่แทน

                 หลังการปฏิวัติปี 1917 ยังคงมีการผลิตมันออกมาอีกไม่กี่ลำ โดยบางลำถูกนำมาใช้ตามเป้าประสงค์เดิมของมันคือการเป็นเครื่องบินโดยสาร อิลเลีย มูราเมียซเวอร์ชั่นเครื่องบินโดยสารลำสุดท้ายปลดระวางไปเมื่อ 10 ตุลาคม 1922 ปีเดียวกับ อิลเลีย มูราเมียซเวอร์ชั่นทิ้งระเบิด   รวมแล้ว มีการเครื่องบินรุ่นนี้ออกมาทั้งสิ้น 85 ลำ

                        

 

     สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินโดยสารรุ่นแรกก็จบเพียงแค่นี้นะค่ะ  ไว้โอกาศหน้าดิฉันจะมีความรู้อะไรมาฝากกันก็รอติดตามกันนะค่ะ

 


 ที่มา: http://www.oknation.net/blog/print.php?id=735333

                                                  

 

 




วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ประวัติและวิวัฒนาการของเครื่องบิน


          ในปัจจุบันการเดินทางไปยังที่ต่างๆสะดวกและมีความรวดเร็วมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะไปเยี่ยมเพื่อนที่ยุโรปหรือไปท่องเที่ยวที่ใดในโลกใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถไปยังที่ๆคุณต้องการได้ ซึ่งพาหนะที่สำคัญในการเดินทางนี้คือ เครื่องบินนั่นเอง แล้วคุณเคยสงสัยบ้างหรือไม่ว่าเครื่องบินที่คุณใช้เดินทางในปัจจุบันนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไรและใครเป็นผู้คิดค้น  ซึ่งดิฉันจะนำเสนอประวัติการกำเนิดเครื่องบินและความเป็นมาต่างๆให้ทุกท่านได้ทราบกันค่ะ



ประวัติและวิวัฒนาการของเครื่องบิน


 นานมาแล้วที่มนุษย์เราใฝ่ฝันว่าอยากจะบินได้เหมือนนก แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรให้ความฝันของพวกเขาเป็นจริงขึ้นมาได้ มนุษย์ได้อะไรและสูญเสียอะไรบ้างในการสานฝันนั้น     จากแค่ความฝันที่อยากจะล่องลอยอยู่ในท้องฟ้า จนกระทั่งพัฒนาเพื่อการรบและคมนาคม ขอเชิญพบกับความพยายาม พัฒนาการ วิทยาการทางด้านการบิน จากอดีตมาจนถึงยุคปัจจุบัน ประดิษฐ์กรรมชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งของมนุษยชาติ "เครื่องบิน" 

               ปี ค.ศ.1060 บาทหลวงไอส์เมอร์ ชาวอังกฤษเลียนแบบการบินของนกด้วยการติดปีกที่แขนขาของตนเอง แล้วกระโดดลงมาจากยอดอารามในมังเมสบิวรี ร่างของเขาหล่นลงมากระแทกพื้นดินจนแขนและขาทังสองข้างหักในทันที

 

               ปี ค.ศ.1853 จอร์จ เคย์ลีย์ วิศวกรชาวอังกฤษเป็นบุคคลแรกที่เห็นว่าการใช้ปีกบินเลียนแบบนกไม่ได้ผล เขาจึงสร้างเครื่องร่อนขึ้นในปี ค.ศ. 1853 และให้คนขับรถม้าเป็นผู้ทดสอบการบินที่แสนโหด จนที่สุดคนขับรถม้าของเขาก็ลาออกด้วยเหตุผลที่ว่า "ผมถูกจ้างมาขับรถ ไม่ใช่มาบิน

 

                                                             รูป 1ปีค..1853 จอร์จ เคย์ลีย์


                                


               ต่อมาในปี ค.ศ.1891-96 ออตโต ลิเลียนธัล ชาวเยอรมันพยายามพัฒนารูปแบบเครื่องร่อนของเคย์ลีย์ เขาใช้ไม้ประเภทสนุ่นมาเป็นโครงในการยึดผืนผ้าใบ และใช้เนินดินสูงเป็นลานในการบินร่อน ออตโต เพียรทดลองเป็นพันครั้งแต่แล้วเขาก็ต้องจบชีวิตลงในการทดลองครั้งสุดท้าย เมื่อลมกรรโชกทำให้ผืนผ้าใบที่แสนจะบอบบางขาดในที่สุด



                                                 รูป 2 ปีค.. 1891-96 ออตโต ลิเลียนธัล





             ปี ค.ศ.1903 สองพี่น้องตระกูลไรท์ ชาวอเมริกันได้ประดิษฐ์เครื่องบินขึ้นเมื่อว่างจากการทำธุรกิจจักรยาน ประวัติศาสตร์การบินครั้งแรกของพวกเขาใช้เวลาไม่ถึงนาที และระยะทางสั้นกว่าความยาวของปีกเครื่องบินในปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่ขึ้นบินและร่อนลงสู่พื้นได้ปลอดภัยภายใต้การควบคุมของนักบิน

                                                      รูป 3 ปีค..1903 สองพี่น้องตระกูลไร



ปี ค.ศ.1907 กาเบรียลและชาร์ลส ฟัวซิน แห่งฝรั่วเศสเป็นชาวยุโรปบุคคลแรกที่สร้างเครื่องบินได้สำเร็จ เช่นเดียวกับเครื่องร่อนอื่นในยุคนั้นเครื่องบินปีกสองชั้นของเขาเป็นชนิดใบพัดหลังเครื่อง เฮนรี่ฟาร์แมนวิศวกรนักบินบังคับเครื่องบิน ฟัวซินไปได้ระยะทางมากกว่า 1 กิโลเมตร ในปี ค.ศ.1908

 รูป 4ปีค.ศ.1907กาเบรียลและชาร์ลสฟัวซิน


                     ปี ค.ศ.1909 เบลเลียต ด้วยเงินจากการจำหน่ายไฟและอุปกรณ์รถยนต์ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นเอง   หลุยส์ เบลเลียต ขาวฝรั่งเศสจึงริเริ่มสร้างเครื่องบินขึ้นบ้าง ผลงานสร้างชื่อเสียงของเขาคือ การบินจาก ฝรั่งเศส ผ่านช่องแคบอังกฤษไปยังเมืองโดเวอร์ แสดงให้เห็นว่าเป็นการเดินทางจากทวีปยุโรปสู่สหราชอาณาจักรโดยเครื่องบินอย่างปลอดภัย


                                                    รูป 5ปีค..1909 เบลเลียต








               หลังจากนั้นเครื่องบินก็บินได้นานขึ้นและปลอดภัยขึ้น เมื่อความคิดที่จะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นผลสำเร็จ การสร้างเครื่องบินในเวลาต่อมา ก็กลายเป็นการพัฒนาเครื่องบินเพื่อวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป


















ที่มา:http://kavepon33mtts.tripod.com/html/Development/Development1.htm